top of page
  • Writer's picturekookkai chrismast

“ลิเวอร์พูลได้กลิ่นเลือด” ริโอ เฟอร์ดินานด์ พูดถึงการไปถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกของลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูลได้กลิ่นเลือด” ริโอ เฟอร์ดินานด์ พูดถึงการไปถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกของลิเวอร์พูล

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพูดถึงการกลับมาพลิกเก็บชัยชนะเหนือบียาร์เรอัลได้ 2-3 อย่างน่าทึ่งในรอบรองชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนัดที่สองเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้พวกเขาได้ชัยชนะรวม 5-2 ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จอีกครั้ง

หลังจากเก็บชัยชนะมาได้ 2-0 ในเกมเลกแรกที่แอนฟิลด์ หลายคนคาดการณ์ว่าหงส์แดงจะทะลุผ่านและส่งทีมของอูไน เอเมรีตกรอบในเกมที่สองได้อย่างง่ายดายพร้อมทั้งมองว่าบียาร์เรอัลไม่มีหนทางที่จะพลิกกลับมาเอาชนะได้ และถึงแม้พวกเขาจะยกระดับเรื่องต่างๆ ได้ในครึ่งแรกแต่ทีมระดับโลกอย่างลิเวอร์พูลก็หาทางกลับมาได้ในที่สุด หลังจบเกมเฟอร์ดินานด์ชมเชยหงส์แดงสำหรับความอุตสาหะของพวกเขาที่กล้าทำในสิ่งที่อาจเป็นผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปถ้าหากความกังวลของคล็อปป์แบบในครึ่งแรกยังคงมีอยู่ เขาบอกกับ BT Sport ว่า “นั่นเป็นสิ่งที่บียาร์เรอัลพลาดอย่างมาก แต่ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับลิเวอร์พูล พวกเขาสมควรเป็นผู้ชนะในที่สุด ในครึ่งแรกพวกเขาเจอกับสิ่งที่ยากมาก แต่พวกเขามีโอกาสรวมตัวกันในช่วงพักครึ่ง ผมว่าลิเวอร์พูลได้กลิ่นเลือดและเราควรให้เครดิตกับพวกเขา พวกเขายอดเยี่ยมมาก เมื่อพวกเขาได้โอกาสอย่างที่ควรได้พวกเขาก็สามารถทำลายทีมบียาร์เรอัลนี้ลงได้”

สายฟ้าแลบในครึ่งหลังของลิเวอร์พูลทำให้บียาร์เรอัลหัวใจสลาย

บียาร์เรอัลขึ้นนำก่อนจากบูเลย์ เดีย ในนาทีที่สาม ก่อนที่ฟรานซิส โกเกอแล็งจะมายิงให้ทีมออกนำ 2-0 พร้อมทั้งตีเสมอกับประตูรวม 2-2 ในนาทีที่ 41 ก่อนที่เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องมีการปรับแทคติกบางอย่างในทีมของเขาในช่วงพักครึ่งพร้อมกับการเปลี่ยนตัวในช่วงต้นครึ่งหลังทันทีโดยส่งเอา หลุยส์ ดิอาซ ลงมาแทน ดิโอโก้ โซต้า ก่อนที่ความมั่นใจในครึ่งหลังจะสัมฤทธิ์ผลจากจังหวะที่ฟาบินโญ่มายิงตีไข่แตกให้ทีมตามมาเป็น 2-1 ในนาทีที่ 62 ก่อนที่จะเป็นหลุยส์ ดิอาซที่ลงมาเป็นสำรองมายิงตามตีเสมอในเกมเป็น 2-2 ในนาทีที่ 67 ก่อนที่ผู้มาเยือนจะได้ซาดิโอ มาเน่จะมายิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลในนาทีที่ 74 พาทีมพลิกแซงกลับมาชนะได้ในท้ายที่สุด นับว่าเป็นการตอกย้ำบทบาทนักสู้ที่ครบเครื่องของลิเวอร์พูลอีกครั้งในฤดูกาลนี้ และเกมนี้อาจเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่พาพวกเขาก้าวไปสู่การคว้าแชมป์ในท้ายที่สุดก็เป็นได้


 

ติดตามข่าวฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ :: เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ


ติดตามข่าวพรีเมียร์ลีกได้ที่ :: รวมสิ่งที่น่าสนใจหลังแมนยูชนะเบรนท์ฟอร์ด


ติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศได้ก่อนใครได้ที่ :: fooballnews2022

1 view
bottom of page